Sibirskiy Haski
✿ไซบีเรียนฮัสกี (รัสเซีย: Сибирский хаски,
Sibirskiy Haski) เป็นสุนัขขนาดกลาง ขนฟูแน่น จัดอยู่ในกลุ่มสุนัขใช้งาน
มีต้นกำเนิดทางตะวันออกของไซบีเรีย เพาะพันธุ์มาจากสุนัขในวงศ์สปิตซ์ มีลักษณะขน 2 ชั้นฟูแน่น, หางรูปเคียว, หูเป็นรูปสามเหลี่ยมตั้งชัน และลายที่เป็นลักษณะเฉพาะ
✿ไซบีเรียนฮัสกีเป็นสุนัขที่แข็งแรง
คล่องแคล่ว เต็มไปด้วยพลัง และยืดหยุ่น
เป็นคุณสมบัติที่สืบทอดจากบรรพบุรุษที่มาจากสิ่งแวดล้อมที่หนาวเย็นอย่างรุนแรงของไซบีเรีย
และจากการเพาะพันธุ์ของชาวชุกชี (Chukchi) ที่อาศัยอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเอเชีย
สุนัขถูกนำเข้ามาในอะแลสกา ระหว่างช่วงตื่นทองที่เมืองนอมน์ (Nome) และแพร่เข้าสู่สหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดาในฐานะสุนัขลากเลื่อน
ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นสุนัขเลี้ยงตามบ้านในภายหลังอย่างรวดเร็ว
history
✿สุนัขทุกสายพันธุ์ที่ถูกพัฒนาพันธุ์ขึ้นมีบรรพบุรุษเดียวกันนั่นคือสุนัขป่าโบราณ
(วงศ์ Canidae)ไซบีเรียนฮัสกี, ซามอย, และอลาสกันมาลามิวนั้นสืบสายพันธุ์โดยตรงจากสุนัขลากเลื่อน
จากการวิเคราะห์ดีเอ็นเอที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆนี้ช่วยยืนยันว่ามันเป็นหนึ่งในสุนัขที่มีการเพาะเลี้ยงมาแต่โบราณ
คำว่า "ฮัสกี (husky)" ได้มาจากชื่อที่ใช้เรียกชาวอินนูอิต
(Inuit) ว่า "ฮัสกีส์ (huskies)" โดยคณะสำรวจคนขาว (Caucasian) คณะแรกๆที่มาถึงแผ่นดินของพวกเขา
ส่วนคำว่า "ไซบีเรียน (Siberian)" ได้มาจากไซบีเรียนั่นเองเนื่องจากความคิดที่ว่าสุนัขลากเลื่อนนี้ถูกใช้ในการข้ามสะพานแผ่นดินของช่องแคบเบอร์ริ่งที่เป็นทางเข้าสู่หรือออกจากรัฐอะแลสกา,
ซึ่งทฤษฎีนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในหมู่ผู้ที่ทำการศึกษาค้นคว้าสุนัขที่สืบเชื้อสายมาจากสุนัขเอซคิโมสามารถพบได้ตลอดซีกโลกด้านเหนือจากไซบีเรียถึงประเทศแคนาดา,
รัฐอะแลสกา, กรีนแลนด์, ลาบราดอร์
(Labrador), และเกาะบัฟฟินค์ (Baffin Island)
✿ด้วยความช่วยเหลือของไซบีเรียนฮัสกี
ประชาชนของชนเผ่าต่างๆไม่เพียงแค่รอดตายเท่านั้นในการออกสำรวจดินแดนที่ไม่มีรู้จัก
พลเรือเองโรเบิร์ต เพียร์รี่ (Robert Peary) แห่งกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาก็ได้รับความช่วยเหลือจากสุนัขสายพันธุ์นี้ระหว่างคณะสำรวจของเขาออกสำรวจขั้วโลกเหนือ
บทบาทของไซบีเรียนฮัสกีในกระทำหน้าที่นี้ไม่สามารถเป็นที่หยั่งรู้ได้
✿สุนัขจากแม่น้ำอานาเดียร์ (Anadyr
River) และพื้นที่รอบๆถูกนำเข้ามาในรัฐอะแลสกาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1908
(และเป็นเวลา 2 ทศวรรษ)ในช่วงตื่นทองเพื่อใช้เป็นสุนัขลากเลื่อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน All-Alaska Sweepstakes (AAS) หรือการแข่งสุนัขลากเลื่อนทางไกลซึ่งเป็นระยะทาง
408 ไมล์ (657 กม.) จากเมืองนอมน์ (Nome) ถึงเมืองแคนเดิล (Candle)
ไปและกลับ "เล็กกว่า, เร็วกว่า
และอดทนมากกว่า ในการบรรทุกน้ำหนักราว 100 - 120 ปอนด์ (45 - 54 กิโลกรัม)"
มันเป็นส่วนสำคัญใกล้ชิดของผู้เข้าแข่งขันยาวนอมน์ที่มีชื่อเสียง ลีออนฮาร์ด
เซพพารา (Leonhard Seppala) ที่เคยเป็นผู้เพาะเลี้ยงไซบีเรียนฮัสกีมาก่อนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันตั้งแต่ปี
ค.ศ. 1909 ถึงช่วง ค.ศ. 1920 ��มีการแข่งขันตั้งแต่ปี
ค.ศ. 1909 ถึงช่วง ค.ศ. 1920
✿ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1925
กันเนอร์ คาเซ็น (Gunnar Kaasen) เป็นผู้นำเซรุ่มไปถึงเมืองนอมน์เป็นคนแรกในปี
ค.ศ. 1925 เพื่อรักษาโรคคอตีบ กันเนอร์ได้ออกจากเมืองนีนนานา (Nenana) ไปสู่เมื่องนอมน์เป็นระยะทางมากกว่า 600 ไมล์
ด้วยความพยายามของผู้เดินทางและความช่วยเหลือของสุนัขลากเลื่อน การแข่งขัน Iditarod
Trail Sled Dog Race (การแข่งสุนัขลากเลื่อนสู่เมื่องอิดิตทารอต)
ที่จัดขึ้นก็เพื่อเป็นอนุสรณ์ของการขนส่งเซรุ่มนี้เอง
และเหตุการณ์นี้ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันในปี ค.ศ. 1995
ที่ชื่อ"บอลโต (Balto)" ตามชื่อของสุนัขนำทีมของกันเนอร์
และเพื่อเป็นเกียรติแก่สุนัขนำทีมบอลโต มีการสร้างรูปหล่อเหมือนที่ทำจากทองแดง
ตั้งอยู่ในเซ็นทรอล ปาร์คในรัฐนิวยอร์ก มีคำจารึกดังนี้
อุทิศแก่จิตวิญญาณที่ทรหดของสุนัขลากเลื่อนที่นำเชื้อต้านพิษบนทางยากลำบากเต็มไปด้วยน้ำแข็ง
600 ไมล์,
ข้ามลำน้ำที่แข็งตัว, ฝ่าพายุหิมะของขั้วโลกเหนือจากเมื่องนีนนานาสู่เมืองนอมน์ที่รอความช่วยเหลือให้พ้นจากโรคร้ายในฤดูหนาวปี
ค.ศ. 1925 อดทน--ซื่อสัตย์--มีไหวพริบ
✿ในปี ค.ศ. 1930
ไซบีเรียนฮัสกีตัวสุดท้ายถูกนำออกจากรัฐบาลโซเวียดใกล้กับพรมแดนของไซบีเรียเพื่อการแลกเปลี่ยนกับภายนอก
ปีเดียวกันมีการจดทะเบียนรับรองสายพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกีโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขแห่งสหรัฐอเมริกาเป็น
9 ปีหลังจากสายพันธุ์นี้ถูกจดทะเบียนในประเทศแคนนาดา
ณ.วันนี้ไซบีเรียนฮัสกีที่จดทะเบียนในอเมริกาเหนือเป็นลูกหลานส่วนใหญ่ของไซบีเรียนฮัสกีที่ถูกนำเข้ามาในปี
ค.ศ. 1930 และสุนัขของลีออนฮาร์ด เซพพารา
เซพพาราเจ้าของคอกสุนัขในนีนนานาก่อนที่จะย้ายไปอยู่นิวอิงแลนด์ อาเทอร์ วาวเด็น (Arthur
Walden) เจ้าของคอกสุนัขชินุก (Chinook) แห่งวอนนาแวมเซิด
(Wonalancet) รัฐนิวแฮมป์เชียร์
ผู้มีไซบีเรียนฮัสกีในคอกที่โดดเด่น
สุนัขตั้งแต่เริ่มก่อตั้งคอกของเขามาจากอะแลสกาโดยตรงและมาจากคอกของเซพพารา
✿ก่อนที่จะมีชื่อเสียง,
ในปี ค.ศ. 1933 ว่าที่พลเรือเอกริชาร์ด อี. เบอร์ด (Richard
E. Byrd)แห่งกองทัพเรือได้ซื้อสุนัขไซบีเรียนฮัสกีราวๆ 50
ตัวด้วยตัวเขาเอง หลายๆตัวถูกรวบรวมและฝึกจากคอกชินุกในรัฐนิวแฮมป์เชียร์
เพื่อใช้ในคณะสำรวจของเบอร์ดที่เขาหวังจะเดินทางราวๆ 16,000
ไมล์ไปตามชายฝั่งของทวีปแอนตาร์กติกา ที่เรียกว่าปฏิบัติการกระโดดสูง (Operation
Highjump) จากประวัติการเดินทางนี้เอง
พิสูจน์ให้เห็นคุณค่าไซบีเรียนฮัสกีเพราะขนาดที่พอเหมาะ และความเร็วที่ดีเยี่ยม
กองทัพสหรัฐอเมริกาได้ใช้ไซบีเรียนฮัสกีในการค้นหาและช่วยเหลือในขั้วโลกเหนือของคำสั่งขนส่งทางอากาศระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง
บีเรียนฮัสกีในการค้นหาและช่วยเหลือในขั้วโลกเหนือของคำสั่งขนส่งทางอากาศระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง
generalization
![]() |
ไซบีเรียนเพศเมียสีแดงอ่อน
|
ไซบีเรียนฮัสกีมีรูปร่างลักษณะภายนอกคล้ายกับอลาสกันมาลามิวท์เช่นเดียวกับสายพันธุ์อื่นๆที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากสุนัขวงศ์สปิตซ์เช่นซามอย
ไซบีเรียนมีขนหนาแน่นกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น มีสีและรูปแบบขนที่หลากหลาย
โดยปกติมีสีขาวที่เท้า, ขา, ท้อง, รอบตาหรือเป็นหน้ากากที่หน้า
และที่ปลายหาง ทั่วไปมีสีดำ-ขาว, เทา-ขาว, ทองแดง-ขาว,
และขาวปลอด และยังมีแบบที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะ เช่น สีอ่อน แต้มจุด
แว่นตา ฯลฯ บางครั้งก็มีลักษณะคล้ายหมาป่าเกิดขึ้น แม้ว่าในการพัฒนาพันธุ์ไม่มีความใกล้ชิดกับหมาป่าหรือสายพันธุ์ที่ใกล้ชิดเลย
คิดว่าเกิดจากการเพาะพันธุ์ที่ไซบีเรียแล้ว
ตา
สีตาของไซบีเรียนฮัสกีที่เป็นที่ยอมรับมีสีฟ้าหรือน้ำตาลเข้ม,
เขียว, น้ำตาลอ่อน, เหลือง/อำพัน,
"แก้วตาหลายสี" หรือตาเฮเซล (Hazel)
เป็นจุดบกพร่องร้ายแรงที่แสดงวงสีต่างกันในแก้วตา
รวมถึงตาข้างนึงสีน้ำตาลอีกข้างสีฟ้า (complete heterochromia) หรือตาข้างเดียวหรือทั้ง
2 ข้างมีสี "แบ่งส่วน"
น้ำตาลครึ่งฟ้าครึ่ง (partial heterochromia) นี่คือสีตาทั้งหมดที่ถูกพิจารณายอมรับโดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขแห่งสหรัฐอเมริกา
ตาต้องเป็นรูปอัลมอนด์ เว้นระยะห่างกันปานกลาง วางตัวเฉียงเล็กน้อย
![]() |
ไซบีเรียนฮัสกี "ตา 2 สี", "จมูกหิมะ"(สีแดง) |
หูและหาง
หูเป็นรูปสามเหลี่ยม, มีขนสมบูรณ์,
ขนาดกลาง, และตั้งชัน
ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยๆในการพัฒนาพันธุ์โดยสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข เช่นสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข
(สหรัฐอเมริกา) ที่มีรูปหูที่เรียกว่าหูผึ่ง (prick ears) หางเป็นพู่เหมือนหางหมาจิ้งจอกรูปเคียวโค้งเหนือหลังและลากหางไปด้านหลังเมื่อเคลื่อนไหว
ไซบีเรียนฮัสกีส่วนมากมีสีขาวตรงปลายหางหางต้องไม่โค้งจนแตะหลังเหมือนสปิตซ์
สีออกแกมขาว
ขน
ขนของไซบีเรียนฮัสกีมี 2
ชั้น ขนชั้นในที่หนาแน่นและขนชั้นนอกที่ยาวกว่า
ขนชั้นนอกยาวตรงและบางส่วนเหยียดเรียบไม่ชี้ชันตั้งตรงจากลำตัว
ที่สามารถปกป้องมันจากความรุนแรงของฤดูหนาวขั้วโลกเหนือได้ (−50 °C to −60 °C) แต่ขนที่หนานั้นทำให้ระบายความร้อนได้ยากในฤดูร้อน
ส่วนขนยาวแบบที่เรียกว่า "ฮัสกีขนแกะ (wooly huskies)" นั้นไม่เป็นที่ยอมรับ
และไม่มีสิทธิ์ลงแข่งในสนามประกวด ดูสีขนเพิ่มเติม
จมูก
จมูกของไซบีเรียนฮัสกีมีสีดำในสีเทาในสุนัขสีแทนและสีดำ
สีเลือดหมูในสุนัขสีทองแดง และอาจจะมีสีเนื้อในสุนัขสีขาว ไซบีเรียนฮัสกีบางตัวมีจมูกที่เรียกว่า
"จมูกหิมะ" เป็นสภาวะที่เรียกว่าผิวด่าง (hypopigmentation) ในสัตว์
และสุนัขที่มี "จมูกหิมะ" นั้นสามารถลงประกวดได้ในสุนัขระดับประกวดไม่ค่อยจะมีจมูกทรงแหลมหรือสี่เหลี่ยมนัก
ขนาด
ในการเพาะพันธุ์ ไซบีเรียนฮัสกีมีมาตรฐานดังนี้
เพศผู้สูง 21 - 23.5 นิ้ว (53.5 - 60
ซ.ม.) หนัก 45 - 60 ปอนด์ (20.5 - 28
กิโลกรัม) เพศเมียมีขนาดเล็กกว่า สูง 20 - 22
นิ้ว (50.5 - 56 ซ.ม.) หนัก 35 - 50
ปอนด์ (15.5 - 23 กิโลกรัม)
อารมณ์
ไซบีเรียนฮัสกีก็เหมือนสุนัขใช้งานทั่วๆไปที่มีพลังงานสูงต้องการการออกกำลังมาก
มันควรได้รับการปฏิบัติแบบเพื่อนเดินทางและสุนัขลากเลื่อนไม่ใช่สุนัขอารักขา
การรวมกันของปัจจัยนี้ส่งผลให้ไซบีเรียนฮัสกีมีจิตประสาทที่สุภาพอ่อนโยนและซื่อสัตย์
ชาวอินูอิต (Inuit) พัฒนาสายพันธุ์นี้ขึ้นมาเพื่อใช้ลากเลื่อนหนักเป็นระยะทางไกลๆและสามารถเอาตัวรอดได้การภูมิประเทศที่หนาวเย็นแบบทรุนดรา
(tundra) และช่วยในการล่าสัตว์
พฤติกรรม
พฤติกรรมของไซบีเรียนฮัสกีถูกมองว่าเป็นตัวแทนบรรพบุรุษของสุนัขบ้าน
นั่นก็คือหมาป่า มันแสดงออกในรูปแบบพฤติกรรมของเทือกเถาเหล่ากอแบบกว้างๆบ่อยครั้งที่ชอบหอนมากกว่าเห่า
การแสดงออกที่มากเกินไปเกิดจากการถูกขับด้วยสัญชาตญาณในการล่า
บุคลิกลักษณะของสุนัขที่เกิดจากการเพาะพันธุ์บ่อยครั้งที่เห็นได้ชัดในพฤติกรรมการละเล่นไล่จับสิ่งต่างๆในสิ่งแวดล้อมที่สุนัขแสดงออกมาคล้ายกับสุนัขล่าเนื้อมากกว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยง
มันชอบวิ่งเป็นพิเศษ น่าจะเป็นเพราะจากประวัติการเพาะพันธุ์ในอเมริกาเหนือ
ในการฝึกสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่งควรใช้เวลา 15
นาที/วันดีที่สุด และทำทุกๆวัน
![]() |
ไซบีเรียนฮัสกี เพศเมีย อายุ 6 เดือน
กำลังเล่นในหิมะ
|
สุขภาพ
ไซบีเรียนฮัสกีมีอายุเฉลี่ยราวๆ 12 - 16 ปี
ข้อบกพร่องในตาแต่กำเนิดที่พบจากการเพาะพันธุ์ เช่น ต้อกระจกบาง, กระจกตาเจริญผิดเพี้ยน,
และจอตาฝ่อรุกลาม
การเจริญผิดปรกติของเอวก็พบได้บ่อยเช่นกันในการเพาะเลี้ยงเหมือนกับสุนัขขนาดกลางหรือขนาดใหญ่ทั่วไป
ไซบีเรียนฮัสกีที่เป็นสุนัขลากเลื่อนอาจมีโรคอื่นๆอีก
เช่น โรคกระเพาะ, หลอดลมอักเสบ, และแผลในกระเพาะ
การแข่งขันสุนัขลากเลื่อน
บางครั้งไซบีเรียนฮัสกียังถูกใช้เป็นสุนัขลากเลื่อนในการแข่งขันลากเลื่อนแต่บางครั้งการมีการใช้สายพันธุ์อลาสกันฮัสกี
(Alaskan Husky) ที่เป็นที่นิยมมากกว่าแทนหรือสุนัขล่าสัตว์ที่เกิดจากการพัฒนาพันธุ์เป็นพิเศษโดยเลือกจากความเร็วและขนที่หนาน้อยกว่า
ระวางบรรทุกของไซบีเรียนฮัสกีที่ถูกพัฒนาพันธุ์อย่างเลือกเฟ้นสามารถดึงน้ำหนักระดับกลางเป็นระยะทางไกลๆด้วยฝีเท้าระดับปานกลางและโดยทั่วไปไม่สามารถทำความเร็วมากกว่านี้ติดต่อกันได้
ไซบีเรียนฮัสกีก็ยังเป็นที่นิยมใช้ในการแข่งขัน
มันวิ่งได้เร็วกว่าสายพันธุ์สุนัขลากเลื่อนแท้ๆบางสายพันธุ์เช่นซามอย, ช้ากว่าแต่แข็งแรงกว่าอลาสกันมาลามิว
ปัจจุบันทิศทางการพัฒนาพันธุ์แบ่งออกเป็นไซบีเรียนฮัสกีสำหรับ “การแข่งขัน”
และสำหรับ “การประกวด”
-ในสหราชอาณาจักร
การแข่งขันไซบีเรียนฮัสกีมีขึ้นบนเส้นทางในป่าต้องใช้สามล้อที่ออกแบบพิเศษแทนเลื่อน
นิยมแข่งในฤดูหนาว
References
Wikipedia. Sibirskiy Haski . July 28 , 2013, https://en.wikipedia.org/wiki/Sibirskiy Haski